#โรงเรียนของประเทศสิงคโปร์ดีต่อใจพ่อจุง ... ทุกวันนี้เรามักจะได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้งวันละหลายๆเคส.. ถ้าเรามองให้ดีหนึ่งในต้นตอเหตุผลหลักๆของการฆ่าตัวตายก็มักมาจากการได้รับความกดดันจากการเปรียบเทียบทางสังคมจนขาดสติ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องที่อาจจะดูเล็กๆแค่นี้มันทำลายทั้งชีวิตได้ ซึ่งการเปรียบเทียบมันมักถูกก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่วัยเด็กโดยไม่รู้ตัว.. และไม่ได้มาจากสังคมโรงเรียนอย่างเดียว.. ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้าน้าอา ล้วนมีผลต่อใจเด็กน้อยเสมอ แต่ผู้ใหญ่ก็มักมองข้ามไปโดยไม่เคยเห็นโทษในสิ่งปลูกสร้างที่ตัวเองได้ทำไว้และกลับมองว่าการสร้างแรงกดดันเหล่านั้นมันจะทำให้เด็กน้อยแข็งแกร่งเพื่อให้ได้ผลรับคือความสำเร็จในอนาคต ทั้งๆที่หลายความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากความกดดันเสมอไป .. เด็กน้อยผู้น่าสงสารเหล่านั้นก็จะเติบโตขึ้นมาด้วยความอ่อนแอแต่เค้าจะสร้างกำแพงไว้เพื่อป้องกันตนเอง ยิ่งต้องมาเจอแรงบวกจากสังคมยุคนี้ที่โลกมันหมุนไปเร็วกว่าใจ.. ใครตามไม่ทันก็สติหลุดหลงผิดทาง ซึ่งการดำรงค์ชีวิตของมนุษย์คนนึงมันไม่ควรจะยากขนาดนั้น ในฐานะผู้เป็นพ่อเป็นแม่ เราเลยมองว่าสถาบันครอบครัวจึงมีบทบาทที่สำคัญที่สุด ก่อนจะไปถึงเรื่องการศึกษา ครอบครัวต้องเเข็งแรงก่อน..ถ้าครอบครัวแข็งแรง ไม่ว่าผัสสะใดจะมากระทบต่อใจเด็กน้อย เค้าก็จะไม่หวั่นไหวและเค้าจะได้เรียนรู้ทุกเรื่องแบบเข้าใจถึงแก่น นั่นหมายความว่า ครอบครัว สังคม และประเทศชาติก็จะได้ผลิตผลที่เป็นบุคลากรมนุษย์ที่มีคุณภาพจากธรรมชาติที่มันควรจะเป็น ไม่ใช่มนุษย์หุ่นยนต์ที่เหมือนเครื่องจักรกลต้องทำงานภายใต้ความกดดันเสมอไป..
ขอบคุณดีเจพี่เฟี๊ยตสำหรับข้อมูลดีดีที่มาแบ่งปันให้พวกเราพ่อๆแม่ๆได้ต่อยอดความคิดครับ🙏❤😘
#พ่อและเด็ก
#YAMAparadise
#koiipopstory
ฝากถึงคุณพ่อ คุณแม่ คุณครู โรงเรียน และทุกหน่วยงานการศึกษาเด็ก
สิงคโปร์ยกเลิกการ เอาผลการเรียนของนักเรียน มาเปรียบเทียบกัน
แต่เน้นความสำคัญที่ "การเตรียมเด็กเพื่ออนาคต" มากกว่า
สมุดพกรายงานผลการเรียน จะยกเลิกการระบุลำดับที่ ของคะแนนที่ได้ในห้อง
แต่ให้ดูการพัฒนาของตัวเองมากกว่า ไปเปรียบเทียบกับเพื่อน
ซึ่งไม่เป็นประโยชน์
นักเรียน 6-8 ขวบ จะไม่มีการสอบ แต่ครูใช้การประเมินผล
ดูความเข้าใจของเด็ก เพื่อแนะนำผู้ปกครอง และเด็ก
นักเรียนโตบางกลุ่ม ไม่มีสอบกลางปี เพื่อเอาเวลาไปเรียนวิชาใหม่ๆ
และฝึกให้ "เด็กเรียน ค้นคว้าด้วยตัวเอง"
กระทรวงศึกษา สิงคโปร์ "ลดความสำคัญของการเน้นที่คะแนน"
แล้วไปเน้น ที่การเตรียมเด็กให้พร้อมกับโลกที่ซับซ้อนขึ้น
ด้วยการเป็น"ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต".
ภายในปี 2022 ทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ จะต่างไปจากปัจจุบันนี้มาก
โดยเฉพาะ "ความคิดสร้างสรรค์" และ "ความเป็นผู้นำ" จะมีความจำเป็นมากขึ้น
แม้แต่ผู้ใหญ่วัยแรงงาน ก็ต้องกลับไปฝึกฝนเพิ่มทักษะกันใหม่
อย่างน้อย 101วัน ก่อนปี 2022
ในวันที่ความรู้ ค้นหาเองได้ โรงเรียนไม่ได้สอนสิ่งที่เราอยากรู้
หรือ ครูสอนสิ่งที่เราอยากรู้ไม่ได้ นักเรียนก็ต้องเป็นครูของตัวเอง
แล้วคุณว่าระบบการศึกษาของเด็กๆเรา ควรเป็นอย่างไร?
source: World Economic Forum
ดูวิดีโอเต็มๆได้ที่:
https://www.facebook.com/…/singapore-is-no…/168801587359364/